วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

七夕祭 (Tanabata Matsuri) เทศกาลทานาบาตะ



◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘ ◙◘  
║ ║║ ║ ║ ║║ ║║║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║║ ║

七夕祭 Tanabata Matsuri





◙◘ ประวัติที่มาของเทศกาลทานาบาตะโดยย่อ


เรื่องเกิดขึ้นจาก โอริฮิเมะ (เจ้าหญิงทอผ้า) ได้พบรักกับ ฮิโคโบชิ (ชายเลี้ยงวัว) แต่ทั้งสองได้ละทิ้งหน้าที่การงานจึงทำให้ถูกลงโทษไม่ให้พบกันอีก แต่เนื่องจากผู้เป็นพ่อของโอริฮิเมะทนเห็นลูกตัวเองร้องไห้ไม่ได้ จึงอนุญาติให้ทั้งสอบพบกันได้วันที่ 7เดือน 7 แต่มีทางช้างเผือกขวางกั้น ทั้ง 2  จึงทำให้ โอริฮิเมะ ร้องไห้อย่างหนัก ทำให้ฝูงนกกางเขนเข้ามาต่อปีกทำเป็นสะพาน แต่ถ้าปีใหนที่ฝนตกจะทำให้นกเข้ามาต่อปีกไม่ได้ จะต้องทำให้รอไปปีหน้าถึงจะได้พบกันอีก



◙◘ กิจกรรมที่ทำในวันที่ 7 เดือน 7
ประดับบ้านด้วยต้นไผ่ ติดกระดาษสีเขียนข้อความขอพรต่อเทวดา





◙◘ ธรรมเนียม


สำหรับญี่ปุ่นยุคปัจจุบันแล้ว ชาวญี่ปุ่นจะฉลองเทศกาลนี้ด้วยการเขียนถึงความหวังของตน บางครั้งก็เขียนเป็นกลอนลงบน"ทันซากุ" (短冊) ซึ่งเป็นแถบกระดาษเล็กๆ แล้วนำไปห้อยกับต้นไผ่ ที่บางครั้งก็เอาอย่างอื่นมาประดับตกแต่งต้นไผ่ไปด้วย ของประดับต้นไผ่นี้จะนำมาลอยในแม่น้ำ หรือเอามาเผาหลังจบเทศกาลนี้ ซึ่งมักเป็นช่วงเที่ยงคืนหรือในวันถัดไป

ซึ่งคล้ายกันกับธรรมเนียมการลอยเรือกระดาษเล็กๆกับเทียนในแม่น้ำช่วงเทศกาลโอบง เทศกาลทานาบาตะจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้างตามแต่ละท้องถิ่น เนื่องจากเทศกาลทานาบาตะเกี่ยวข้องกับเทศกาลโอบงอยู่บ้าง เลยมีเพลงพื้นบ้านในเทศกาลนี้ด้วย

"ซาระ โน ฮา ซาระซาระ (笹の葉 さらさら)
โนคิบะ นิ ยูเรรุ (軒端にゆれる)
โอโฮชิซามะ คิระคิระ (お星様 キラキラ)
คินกิน ซึเนโกะ (金銀砂子)"

"ใบไผ่พัดพาดังกรอบแกรบ
ต่างสั่นไหวเลียดชายคา
ดวงดาวพร่างพราวกะพริบแสง
อันเป็นผงธุลีแห่งทองเงิน"




◙◘วันเวลาที่จัดงานเทศกาล

เทศกาลทานาบาตะตามแบบดั้งเดิมนั้นจะอ้างอิงตามปฏิทินจันทรคติของญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละเดือนในปฏิทินนี้จะตามหลังเดือนในปฏิทินแบบเกรกอเรียนที่ใช้กันสากลในปัจจุบัน ทำให้บางเทศกาลจัดในวันที่ 7 กรกฎาคม บางที่ก็จัดในช่วงวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงจัดเทศกาลทานาบาตะในวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของญี่ปุ่น ซึ่ง
ตรงกับเดือนสิงหาคมในปฏิทินเกรกอเรียน (ปฏิทินสากล)





Credit::




พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์ น่ารักๆในเกาหลี!!

▓ ▒ ░ ▓ ▒ ░ ▓ ▒ ░ ▓ ▒ ░ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

                                       พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์

 - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ▓ ▒ ░ ▓ ▒ ░ ▓ ▒ ░ ▓ ▒ ░ 
                                     


◘   พิพิธภัณฑ์ เท็ดดี้ แบร์ ของเกาหลี อันเป็นพิพิธภัณฑ์ ตุ๊กตาหมี ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเกาะ Jeju 



◘   พิพิธภัณฑ์ เทดดี้แบร์ สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 100 ปี เทดดี้ แบร์ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในปี 1902 มีการทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2001 โดยมีการแสดงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ตุ๊กตาหมี เทดดี้แบร์ สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ซึ่งมีผู้นิยม เทดดี้แบร์ กันมาก กล่าวกันว่ามีนักสะสม เทดดี้แบร์ ทั่วโลกหลายล้านคน บางคนเสาะแสวงหา เทดดี้แบร์ โบราณ หรือ เทดดี้แบร์ ที่มีลักษณะเฉพาะ หรือเคยมีเจ้าของที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่ง เทดดี้แบร์เหล่านี้จะมีราคาแพง





◘  ภายนอกตัวอาคาร จะถูกจัดเป็นสวนรูปปั้น เท็ดดี้ แบร์ ซึ่งมีรูปปั้นเท็ดดี้ แบร์ในลักษณะท่าทางต่างๆ ที่บอกเล่าเรื่องราว ทั้ง ครอบครัวหมีดำของเกาหลี หรือ สระน้ำสำหรับตกปลาของเท็ดดี้ แบร์ และอีกมามาย



◘   ภายในตัวอาคารจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนประวัติศาสตร์ ส่วนของงานศิลปะ และส่วนของการแนะนำโครงการ เราจะได้เรียนรู้ประวัติเท็ดดี้ แบร์ ตลอดระยะ 100 ปี รวบรวมเท็ดดี้ แบร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาแสดง ให้ท่านได้ชมกัน







◘ และพิเศษสุดกับ การจัดแสดงเท็ดดี้ แบร์ ในอริยาบทต่างๆ เพื่อสะท้อนถึงความเป็นอยู่ของคนเกาหลีและ
ประเทศอื่นๆทั่วโลก







เกาะที่สวยที่สุดในโลก จะสวยแค่ไหน จริงรึเปล่ามาดูกัน


۩ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  ۩


อันดับที่ 1 เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

 


อันดับที่ 2 หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์



อันดับที่ 3 เกาะเคป เบรตัน ในรัฐโนวา สโกเชีย ประเทศแคนาดา


อันดับที่ 4 เกาะคาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา



อันดับที่ 5 เกาะ Mount Desert ในรัฐเมน สหรัฐอเมริกา



อันดับที่ 6 เกาะมาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา



อันดับที่ 7 หมู่เกาะเอโอเลียน ประเทศอิตาลี


อันดับที่ 8 หมู่เกาะมัลดีฟส์ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ 



อันดับที่ 9 เกาะบิ๊ก ไอส์แลนด์ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา



อันดับ 10 เกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา





                          



วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พิพิธภัณฑ์เก๋ๆ ไม่เหมือนใครในThailand :D

Art in Paradise

เพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยไป พิพิธภัณฑ์ Art in Paradise เราเก็บภาพมายั่วน้ำลายกันนิดนึง เดิมที พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่เกาหลีใต้ แต่เจ้าของย้ายมาอยู่เมืองไทย จึงก่อตั้ง Art in Paradise ขึ้นมาใหม่ที่ พัทยาเหนือ เป็น ที่เที่ยวพัทยา ที่น่าสนใจที่หนึ่งใน จังหวัดชลบุรี 


ศิลปะที่ art in paradise พัทยา เป็นเทคนิคการสร้างแสงและเงาในการวาดรูปบนพื้นผนังสีขาวล้วน ให้ออกมาเป็น realistic คล้ายคลึงของจริงมากที่สุด โดยไม่ใช้วัสดุซึ่งมีมิติแต่อย่างใด ระบายลวดลายกันเพียวๆ แบบว่าเหลียวใกล้ๆ ยังคิดว่าเดินทะลุทะลวงได้



พอได้เข้าไปสัมผัส Art in Paradise ก็เหมือนอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ ทุกภาพ ทุกฉาก ที่ พิพิธภัณฑ์ Art in Paradise จับต้องได้ทุกเม็ด ถ่ายรูปได้ทุกมุม เพราะเขาเน้นให้มาถ่ายภาพ แค่ไม่ซาดิสม์ ทำลายของเขาพัง จะถ่ายท่าไหนก็ไม่มีใครว่า ใครมีโอกาสก็แวะไป ไปเป็นแก๊งถ่ายรูปสนุกสนานแน่นอน!












3 พิพิธภัณฑ์ที่เด็ดๆที่สุดในโลก


1. พิพิธภัณฑ์ ซัลวาดอร์ ดาลี่ ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก รัฐฟลอริด้า สหรัฐฯ เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่จัดแสดงงานของ ซัลวาดอร์ ดาลี่ โดยเฉพาะ โดยผลงานที่เขาสร้างสรรค์แต่ละชิ้น ล้วนแล้วแต่เป็นงานศิลปะที่งดงาม และทำให้ผู้คนประทับใจมาแล้วนับไม่ถ้วน ผลงานที่โด่งดังมากที่สุด ได้แก่ Saint John of the cross และผลงานชุด Crucifixion

◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ 


2. พิพิธภัณฑ์นานาชาติ แม็กซ์ซี่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี พิพิธภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งสร้างแล้วเสร็จไปเมื่อปีที่แล้ว เป็นพื้นที่ที่ใช้จัดแสดงงานศิลปะแห่งศตวรรษที่ 21 พิพิธภัณฑ์นี้เป็นที่เลื่องลือเรื่องการออกแบบเป็นอย่างมาก

◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇


3. พิพิธภัณฑ์ Guggenheim นิวยอร์ค สหรัฐฯ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงคอลเลคชั่นของนักเขียนภาพสมัยต่าง ๆ รวมไปถึงเป็นสถานที่แสดงนิทรรศการต่าง ๆ ของชาวอเมริกันอีกด้วย


◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ ○ ◎ ● ◆ ◇ 



เยือนเมืองโรแมนติก เวนิส



♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣  เวนิส @ Italy ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ 

ประวัติเวนิส    

✄  - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - -- - -- - - -






เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก ในภาคเหนือของประเทศอิตาลีทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำพลาวิ มีผู้อยู่อาศัยโดยประมาณ 272,000 คน ซึ่งนับรวมหมดทั้งเวนิส โดยมี 62,000 คนในบริเวณเมืองเก่า 176,000 คนในเทอร์ราเฟอร์มา (Terraferma) และ 31,000 คนในเกาะอื่นๆ ในทะเลสาบ





 ในบรรดาเมืองท่องเที่ยวของอิตาลี เมืองเวนิส ดูจะเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากทุกเมืองในโลก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบที่สวยงามจนได้ฉายาว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” ( The Queen of the Adriatic) หรือ “เมืองแห่งสายน้ำ” (The City of Water) ที่มีคลองสำหรับใช้สัญจรแทนถนนมากกว่า 150 สาย หรือ “เมืองแห่งสะพาน” ( The City of Bridges)ที่ มีสะพานเชื่อมคลองมากกว่า 400 แห่งที่โดดเด่นเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวอีกทั้งยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งศิลปวัฒนธรรมและดนตรียามค่ำคืน (The City of Light)ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและใฝ่ฝันอยากมาเทียวชมสักครั้งในชีวิต